วันพฤหัสบดีที่ ๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

แง่คิดดีดีของชีวิต

ใครมีบทความดีดีที่หรือมีแง่คิดดีดีและเป็นแรงผลักดันให้กับชีวิต ผมอยากให้ทุกๆคนมาแบ่งปันบทความนั้นให้เพื่อนๆได้อ่านกันบ้างนะคับ

ขอบคุณสำหรับทุกบทความดีดี

๓ ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผู้ชนะกับผู้แพ้

ผู้ชนะ มักมีอุปสรรคไว้ให้ข้าม
ผู้แพ้ ยอมคุกเข่าอยู่ตรงหน้า

ผู้ชนะ มักมีการแบ่งเวลา
ผู้แพ้ ว่า เวลานั้นไม่มี

ผู้ชนะ มักกล่าวคำ "เราทำได้"
ผู้แพ้ ใช่ไม่เก่งเหมือนคนอื่นเขา

ผู้ชนะ บอก "นี่คือโอกาสของเรา"
ผู้แพ้ เฝ้ารอดูคนอื่นทำ

ผู้ชนะ ทุกปัญหามีคำตอบ
ผู้แพ้ ชอบ ทุกคำตอบเป็นปัญหา

ผู้ชนะ ชนะได้ทั้งโลกา
ผู้แพ้ พาอับจนทั้งชีวี

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

โชคกับโอกาส

"โชค" กับ "โอกาส" สองคำนี้มันใกล้กันมาก ถ้าคุณเปิด Dictionary ก็จะเป็นว่ามันอยู่ใกล้ๆกัน
คุณรู้ความหมายของมันหรือเปล่า ผมจะพยายามพิจารณาคำ 2 คำนี้จากความคิดของผม
ออกมาเป็นตัวอักษรในหน้านี้

"รอโอกาส" หลายคนใช้คำนี้บ่อย ผมว่ามันผิดอยู่นิดหน่อยตรงที่เราใช้คำว่า "รอ" คำนี้น่าจะใช้กับคำว่า "โชค" มากกว่า

"โอกาส" ในความคิดของผมมันไม่ต้องรอครับ มันต้องใช้คำว่า "หา"
ถ้าเรา "หาโอกาส" มากเท่าไร เราจะ "มีโอกาส" มากเท่านั้น
ถ้าใครชอบ "โชค" คุณก็รอต่อไปเถอะ

แล้วจะรู้ได้ไงล่ะว่า
- โอกาสที่เราได้มามันจะสำเร็จหรือไม่
- เปอร์เซ็นต์ของความสำเร็จมีเท่าไร

อืม! เป็นคำถามน่าคิดนะ ให้คุณเอาไปคิดต่อเองละกัน
เพราะถ้าคุณเริ่มคิด คำตอบก็จะออกมาเอง แต่ถ้าคุณหยุดคิด คุณก็คงรู้ว่าคำตอบก็คือ "ไม่สำเร็จ" นั่นเอง

คุณจะ "รอโชคชะตา" หรือคุณจะ "หาโอกาส" ก็อยู่ที่คุณ!



ขอต่ออีกนิดนึง...
อีกคำหนึ่งที่ใช้กับคำว่า "โชค" ก็คือคำว่า "เสี่ยง"
แต่ถ้าผมจะใช้กับ "โอกาส" ผมจะใช้คำว่า "น่าเสี่ยง" แทน
"ความเสี่ยง" กับ "ความน่าเสี่ยง" มันต่างกันตรงไหนหรอ?
มันต่างกันแค่นิดเดียวครับ...
ความแตกต่างระหว่าง "ความเสี่ยง" กับ "ความน่าเสี่ยง" ก็คือ ข้อมูล

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ช้างกับกิ่งไม้

นานมาแล้วชาวอินเดียใช้วิธีการนำลูกช้างมาฝึกให้เชื่อง โดยล่ามโซ่ขนาดใหญ่ที่ขาของลูกช้างติดกับต้นไม้หรือซุงขนาดใหญ่ พละกำลังของลูกช้างเองไม่สามารถที่ทำให้ลูกช้างมีอิสระได้ ความพยายามหลายๆ ครั้งแล้วไม่สำเร็จนั้น ทำให้ลูกช้างจดจำว่า "ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้"
และหลังจากความพยายามอย่างเต็มที่ในระยะเวลาที่นานพอ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ลูกช้างจะยอมแพ้ไปเอง และเชื่อว่า ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่อาจหนีไปไหนได้ ท้ายที่สุดเมื่อลูกช้างโตเต็มที่ มีน้ำหนักหลายตัน คนเลี้ยงก็อาจเพียงแต่ผูกช้างนั้นไว้กับกิ่งไม้ก็พอ มันจะไม่หนีไปไหน อันที่จริงมันไม่คิดที่จะหนีไปไหนเลยด้วยซ้ำ

คุณเคยรู้สึกแบบนี้บ้างหรือเปล่า เหมือนว่ามีอะไรมัดเราอยู่ แม้ว่าเราถูกหัวหน้าด่าก็ต้องอยู่ ขึ้นเงินเดือนน้อยก็ต้องอยู่ ไม่มีการปรับตำแหน่งเลื่อนขั้นให้ก็ต้องอยู่ ไม่สามารถออกไปทำอะไรได้เองโดยลำพัง ทั้งๆ ที่เราเองก็มีความสามารถ (คุณก็คิดเหมือนกันใช่ไหม?)
เรารู้สึกเองว่าไม่มีทางเลือกอื่น หรือเราไม่เปิดโอกาสตัวเองให้ศึกษาทางเลือกอื่นกันแน่ เราเองคงไม่ต่างอะไรกับช้าง เราเชื่อไปเองว่าเราไม่อาจหลุดพ้นจากสภาพที่เป็นอยู่ (ซึ่งมันก็ไม่ได้ทำให้เรามีความสุขมากมายนัก) ความเชื่อนี้จะฝังหัวเรามากขึ้นๆ จนในที่สุดมันกลายเป็นความจริง ในจิตไต้สำนึก เป็นผลทำให้เรา " คิดการเล็ก"
แต่ท้ายที่สุดแล้วเราเองต้องตัดสินใจ และตระหนักให้ได้ว่า สิ่งที่ผูกติดเราไว้ ไม่ใช่ต้นไม้หรือขอนไม้ที่ใหญ่โต มันเป็นเพียงกิ่งไม้เล็กๆ ซึ่งเราสามารถหักและทำลายเมื่อใดก็ได้ที่เราต้องการพ้นจากการถูกหัวหน้าด่า พ้นจากการถูกบังคับให้มาทำงานทั้งๆ ที่เป็นวันหยุดของเรา พ้นจากการถูกปฏิเสธจากการขอเลื่อนตำแหน่ง หรือขึ้นเงินเดือน หนทางของวิถีชีวิตที่ดีกว่า
การเริ่มต้นที่เราต้องกล้าที่จะหักกิ่งไม้นั้นทิ้ง แล้วมุ่งหน้าไปยังป่าสีเขียวอันอุดมสมบูรณ์ คุณพร้อมแล้วหรือยังที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ